ทุกปีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมจะเป็นช่วงที่มีสีสันที่สุดในยุโรปเลยค่ะ เมืองใหญ่ ๆ จะจัดงานตลาดคริสต์มาสกันอย่างคึกคัก มีทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวมาเดินชมความน่ารักของตลาดคริสต์มาสกันมากมาย
สำหรับปี ค.ศ. 2016 นี้ ได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เมืองเบิร์นและเมืองบาเซิล เลยเอารูปงานคริสต์มาสมารีวิวให้อ่านกันไว้เผื่อเป็นไอเดียในการจัดทริปสำหรับปีหน้านะคะ
เรื่องการเดินทางนี่บอกเลยว่า "ง่ายมาก" เพราะทุกเมืองในสวิตเซอร์แลนด์มีระบบรถไฟที่ตรงเวลามาก แถมระยะห่างระหว่างเมืองก็สั้น ๆ นั่งรถแค่ 1-2 ชั่วโมง จากเมืองต้นทางก็สามารถเข้ามาเที่ยวตลาดคริสต์มาสที่เมืองหลวงอย่างกรุงเบิร์นได้แล้วค่ะ
พอออกจากสถานีรถไฟ Bern แล้วก็แค่เดินตรงมาเรื่อย ๆ แล้วเลี้ยวเข้าถนนหลักจากหน้าสถานีรถไฟ เดินชมเมืองไปแป๊บเดียวก็จะถึงตลาดคริสต์มาสแห่งแรก (เค้าจัดสองที่ในเมืองคือ จตุรัส Waisenhausplatz และที่หน้ามหาวิหาร Münsterplatz)
ตลาดแรกอยู่ที่จตุรัส Waisenhausplatz แถว ๆ ศาลาว่าการเมืองเลยค่ะ ฝั่งขวาหน้าศาลาว่าการจะเป็นตลาดนัดขายอาหารและผักผลไม้ที่มีประจำวันตามปกติ แต่ฝั่งซ้ายเป็นตลาดคริสต์มาสค่ะ แบ่งเป็นสามแถวเดินเข้าไปในตลาดแล้วไปสุดที่ร้านขายเครื่องดื่มแล้วเดินวนกลับมาอีกฝั่งได้เลย
ข้างในตลาดมีร้านค้าเยอะมากค่ะ มีทั้งร้านขายเสื้อผ้าหน้าหนาว ร้านเครื่องประดับ ร้านค้าขายของตกแต่งสุดมุ้งมิ้ง
ที่นิยมมาก ๆ เลยก็คือพวกของประดับที่ใส่เทียนเล็ก ๆ ไว้ประดับบ้านนี่ล่ะค่ะ มีดีไซน์หลากหลายมาก อย่างร้านนี้เค้าเอาไม้มาแกะสลักเจาะเป็นช่องให้แสงไฟลอดออกมาได้ เวลาจุดเทียนหอมในบ้านคงจะสวยน่าดู
บ้านนกหลักน้อย ๆ นี่ก็น่ารักค่ะ ฝรั่งเค้าจะแขวนบ้านเล็ก ๆ แบบนี้เอาไว้ที่สวน พอถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะมีนกมาทำรังในนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกันไปเลย
พวกของทำมือไว้แขวนบ้านสีสันสดใสแบบนี้เรียกลูกค้าได้ดีมากเลยค่ะ ร้านนี้คนมุงเพียบ เค้าขายของกระจุกกระจิก ดูกันเพลินเลย
มังกรโพสต์ท่าน่าร๊ากกกกก แต่พอเหลือบไปมองราคาแล้วมีสะดุ้งกันเลยค่ะ เจ้ามังกรนี่แพงเอาเรื่อง T[]T ต่อให้น่ารักขนาดไหนก็ทำใจซื้อไม่ไหวจริง ๆ
พอเดินมาเรื่อย ๆ ก็จะถึงท้ายตลาดที่เป็นร้านขายเครื่องดื่มอุ่น ๆ แล้วค่ะ ที่เก๋เลยคือเค้าทำแก้วทาสีอย่างสวยงามเป็นสัญลักษณ์ของงานตลาดคริสต์มาสแต่ละปีด้วยนะคะ เวลาไปซื้อเครื่องดื่มก็จะได้ดื่มจากแก้วน่ารัก ๆ ด้วย ถ้าถูกใจก็ขอซื้อต่อเป็นของที่ระลึกได้ด้วย (ถ้าซื้อตั๋วรถไฟสำหรับมาตลาดคริสต์มาสจะได้แก้วนี่ไปฟรี ๆ พร้อมมัลล์ไวน์อีกต่างหาก)
จุดศูนย์กลางความสนใจของตลาดก็คือต้นคริสต์มาสค่ะ >__< ต้นใหญ่ใช้ได้เลย สูงเกือบห้าเมตรได้ ตอนเย็น ๆ หลังพระอาทิตย์ตกเค้าก็จะเปิดไฟบนต้นคริสต์มาส โรแมนติกมากค่ะ
เดินดูท้ายตลาดหมดแล้วก็ได้เวลาเดินย้อนกลับไปด้านหน้า เราก็เลือกเดินอีกฝั่งนึงได้ มีของน่ารัก ๆ เยอะเหมือนกัน อย่างร้านนี้คือโดนใจมากเพราะขายของจิ๋ว ๆ แบบโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ กีตาร์ สัตว์เลี้ยง คือทุกอย่างย่อส่วนเหลือขนาดแค่หัวแม่มือเอง น่ารักที่สุด >_<
สำหรับสายฮาร์ดคอร์ ก็มีร้านดาร์ก ๆ อยู่บ้างเหมือนกันค่ะ ร้านนี้ขายหัวกระโหลกประดับบ้าน ดูแล้วก็เหมาะกับฮาโลวีนดีนะคะ
กลับมาดูอะไรมุ้งมิ้งต่อค่ะ >___< อันนี้เอาภาพตอนพระอาทิตย์ตกมาให้ดูบ้าง ร้านนี้ขายเครื่องประดับพวกไฟเรืองแสงได้ พอเอาใส่ในกระดาษฉลุแล้วมันเรืองรองมากเลย ตอนกลางวันร้านไม่ค่อยมีคน พอตกเย็นเท่านั้นล่ะค่ะ โอ้โห อย่างสวยเลย
ตอนแรกเห็นร้านนี้นึกว่าร้านขนม....
ที่ไหนได้เป็นร้านขายสบู่ค่ะ ทำออกมาเหมือนขนมหวานเป๊ะ เดินผ่านแล้วหอมมาก ๆ เค้าเอาไว้ใช้กับอ่างอาบน้ำค่ะ สีสันสดใส (น่ากินมากกว่าน่าใช้นะเนี่ย)
ขอบอกว่าร้านขายเทียนนี่ไอเดียบรรเจิดที่สุดแล้วค่ะ ใครจะไปคิดได้ว่าเทียนเนี่ยจะทำให้มันดูกิ๊บเก๋ได้ขนาดนี้? เดินผ่านแล้วมองเหลียวหลังเลยค่ะ เค้าดีไซน์ออกมาได้แหวกแนวสุด ๆ สีก็สวยด้วย
ตลาดที่สองอยู่ที่หน้ามหาวิหารค่ะ ตรงนี้มีขนาดเล็กหน่อยทำเป็นซุ้มสี่เหลี่ยมให้เราเข้าไปเดินวนได้รอบนึงพอดี
ตรงนี้เป็นทางเข้างาน ที่นี่เน้นงานศิลปะแนวสร้างสรรค์ ดังนั้นของที่เอามาขายคือราคาพุ่งมาก เดินดูได้อย่างเดียวซื้อไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ แต่ไอเดียแหวกแนวมีเยอะดีนะคะ
ที่นี่มีกิจกรรมทำเทียนเองด้วยค่ะ ซื้อเทียนต้นแบบแล้วเอาไปหลอมเอง จากนั้นก็ขึ้นรูปเอง แต่ที่ฝรั่งทำกัยคือเป็นแบบแท่งยาว ๆ ไม่ได้มีลวดลาย พวกเด็ก ๆ นี่ดูสนุกกับการทำเทียนมากเลย
ส่วนร้านนี้ขายเทียนสีสด เน้นสีสดอย่างเดียวไม่ได้ทำเป็นดีไซน์แปลก ๆ แบบตลาดแรก
มาดูร้านของกินดีกว่าค่ะ ซื้อได้แค่ร้านนี้ร้านเดียว เค้าขายขนมสำหรับเทศกาลคริสต์มาสค่ะ พวกขนมปังใส่รสขิงและเครื่องเทศที่กินแล้วคิดถึงคริสต์มาสเลย เจ้าของร้านใจดีมากให้ชิมขนมน้ำตาลฟัดจ์ (หวานกว่าของอังกฤษอีก) และอัลมอนด์เคลือบน้ำตาลฟรี ๆ ด้วย
อันนี้คือขนมที่ซื้อกลับมาค่ะ ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะอร่อย แค่อยากจะลองขนมทางฝั่งสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นเอง
แต่ขอบอกว่ามันอร่อยมากกกกกกกกกก เป็นแนวกึ่งขนมปังกึ่งเค้กที่มีเครื่องเทศหอม ๆ คล้ายขนมปังขิงแต่มันพิเศษกว่านั้น ตรงกลางมีไส้เป็นรสคริสต์มาส (บรรยายไม่ถูกค่ะ แค่กินแล้วภาพตลาดคริสต์มาสมันลอยมาเลย) ราคา 4.9 CHF ราคาน่าคบหามากด้วย
ตรงกลางตลาดเป็นร้านเครื่องดื่มค่ะ จากนั้นก็จะวนมาออกด้านหน้าเหมือนเดิม ถ่ายรูปภาพรวมของตลาดมาให้ดูค่ะ เค้าทำรั้วรอบงานเลย ออกมาก็อยู่หน้ามหาวิหารพอดี
สรุปข้อดีข้อเสียของตลาดคริสต์มาสที่เบิร์นเอาไว้ให้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจกันนะคะ
ข้อดี : เดินทางง่ายมาก ออกจากสถานีรถไฟเดินตรงไปนิดเดียวถึงตลาดแรกแล้ว ตัวเมืองประดับไฟสวยมาก มีร้านค้าหลากหลายประเภท เดินเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลินแน่นอน
ข้อเสีย : ของกินน้อยมาก เน้นเครื่องดื่มและร้านค้าไปหน่อย พวกของกินเล่นมีแค่ร้านขายเกาลัดกับร้านขนมปังขิงไม่กี่ร้านเองค่ะ (ไม่เหมาะกับสายกิน แต่เหมาะกับสายเดินชมข้าวของมาก ๆ )
ที่อยากแนะนำก็คือให้มาเที่ยวจนถึงช่วงเวลาเย็น ๆ ที่เค้าเปิดไฟคริสต์มาสกันเลยค่ะ ราว ๆ สี่ห้าโมงเย็นก็เริ่มเปิดกันแล้ว เมืองทั้งเมืองนี่เหมือนกับเรืองแสงได้เลย ยิ่งตรงต้นคริสต์มาสด้วยแล้ว บอกเลยค่ะว่ามันสวยมากกกกกก
โดยส่วนตัวคือประทับใจมาก ๆ เมืองเบิร์นปกติก็น่ารักอยู่แล้ว ยิ่งมาจัดงานคริสต์มาสยิ่งสวยขึ้นไปอีก บรรยากาศก็ดี ผู้คนก็ใจดี ตลาดน่ารักแต่เสียดายของกินน้อยไปนิดนึงแค่นั้นเอง แนะนำให้มาเที่ยวเลยค่ะ รับประกันความดีงาม >___<