สวนทิวลิป Keukenhof
ถ้าพูดถึง "สวนดอกไม้ที่ดังที่สุดในยุโรป" ยังไงก็หนีไม่พ้นที่สวน Keukenhof แน่ๆ ค่ะ สวนทิวลิปแห่งนี้ตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมนับล้านคนในแต่ละปี ซึ่งจะเปิดทำการเฉพาะช่วงที่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิบานเท่านั้นค่ะ (ราวๆ ปลายมีนาคมถึงกลางพฤษภาคม) ภายในสวนนั้นตกแต่งอย่างสวยงามด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ มีทั้งแบบสวนกลางแจ้งและสวนในร่ม ที่รวบรวมเอาดอกไม้เมืองหนาวมาจัดแสดงให้ชมกัน รับรองว่าไปเที่ยวชมสวนนี้แล้วจะติดใจกันทุกคนค่ะ
ทำความรู้จักสวนทิวลิป Keukenhof
วิธีเดินทางมาชมสวนทิวลิป
จากสนามบิน Schiphol - ใช้รถบัสหมายเลข 858 ที่หน้า Arrival Hall 4 (ข้างร้านกาแฟสตาร์บัค)
จากเมืองข้างเคียง - เช่นเมือง Leiden หรือ เมือง Haarlem ป้ายรถบัสจะจอดที่หน้าสถานีรถไฟ
สวน Keukenhof ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงอัมสเตอร์ดัมทำให้เดินทางไปกลับได้สะดวกทั้งจากสนามบินหรือเมืองใกล้ๆ แนะนำให้ซื้อตั๋วเข้าชมรวมกับรถบัสไปกลับเรียกว่า Combi-ticket จะซื้อจากอินเตอร์เน็ตมาก่อนหรือว่ามาหาซื้อตามตู้ขายบัตรก็ได้ แต่ไม่ควรมารอซื้อหน้างานเพราะแถวจะยาวมากทำให้เสียเวลาได้
ประตูทางเข้าสวน Keukenhof ยามเย็น (ตอนใกล้เวลาปิดที่ด้านหน้าจะโล่งมากสวนทางกับยามเช้าเลยค่ะ)
มีดอกไม้อะไรน่าสนใจกันบ้าง?
ดอกทิวลิป (Tulips) : เป็นดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ตลอดกาลของประเทศเนเธอร์แลนด์ นับว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของสวน Keukenhof เลยก็ว่าได้ ภายในสวนนั้นจะปลูกดอกทิวลิปไว้ทั้งแบบที่เป็นแปลงใหญ่ๆ เป็นกลุ่มย่อยสลับกับดอกไม้อื่นๆ และปลูกในที่ร่มซึ่งคัดเฉพาะพันธุ์พิเศษๆ เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ดูกันด้วยค่ะ
ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้ที่พิเศษตรงที่ว่าผู้คนจะจำลักษณะของดอกได้ตอนที่ยังตูมอยู่มากกว่าตอนที่เบ่งบานเต็มที่แล้ว เวลาเดินชมดอกไม้ในสวนถ้าไปถึงตอนที่ดอกทิวลิปบานแล้วก็อย่าลืมสังเกตกันด้วยนะคะ บอกเลยค่ะว่าดอกทิวลิปบานๆ ก็สวยไม่แพ้ตอนที่ยังตูมอยู่จริงๆ
ดอกไฮยาซิน (Hyacinth)
ดอกไม้พันธุ์นี้มีหลากสีทั้งสีขาว สีชมพู สีส้ม ไปจนถึงสีม่วงหรือสีน้ำเงิน แต่จุดเด่นของดอกไฮยาซินไม่ได้อยู่ที่รูปโฉมค่ะ
...มันอยู่ที่กลิ่น...
เวลาได้กลิ่นหอมๆ หวานๆ ลอยมาตามลมนี่เดาได้เลยว่ามาจากดอกไฮยาซินแน่ๆ แค่เข้าไปนั่งใกล้ๆ ก็ได้กลิ่นแบบติดจมูกแล้ว
ดอกไฮยาซินไม่ได้เป็นดอกไม้ที่สวยแต่รูปอย่างเดียว จูบเธอก็หอมจับใจค่ะ
ดอกซากุระ (Cherry Blossom) : ฝรั่งจะเรียกดอกไม้สีขาว-ชมพูแบบนี้รวมๆ กันเลยว่าเชอร์รี่บลอสซั่ม ซึ่งคนไทยจะคุ้นเคยในชื่อของซากุระที่มาจากญี่ปุ่นมากกว่าค่ะ ในสวน Keukenhof นั้นปลูกไว้หลายสิบต้นเลย สีสันก็แตกต่างกันไปตั้งแต่ขาวไปจนถึงสีชมพูเข้มๆ ถ้าไปถูกจังหวะจะเห็นดอกไม้บานเต็มต้นเลย
ดอกดัฟโฟดิล (Daffodil)
อีกสัญลักษณ์หนึ่งของฤดูใบไม้ผลิก็คือดอก Daffodil สีเหลืองสดแบบที่เห็นรูปนี่ล่ะค่ะ สายพันธุ์ของดอกดัฟโดดิลนั้นใหญ่มากๆ เรียกรวมกันว่าดอกนาร์ซีซัส (Narcissus) มีสีเหลืองๆ บางดอกก็สีขาวสลับเหลืองตรงกลาง หรือบางทีก็ออกแนวโทนสีส้มไปเลยก็มีค่ะ
เนื่องจากดอก Daffodil เป็นดอกไม้รุ่นแรกๆ ที่จะบาน ก็เลยต้องปรับตัวเองให้ส่วนช่อดอกยื่นออกมาจากส่วนกลีบหลัก นอกจากจะช่วยปกป้องเกสรจากความหนาวแล้วยังช่วยมอบความอบอุ่นให้กับแมลงที่เข้ามาช่วยผสมเกสรอีกด้วยเรียกได้ว่าเป็นดอกไม้ที่ฉลาดมากๆ ค่ะ
แปลงดอกไม้กลางแจ้งสุดสวย
นอกจากภายในสวน Keukenhof จะมีดอกไม้สวยๆ ให้ชมกันอย่างจุใจแล้วก็ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ร่วมสนุกกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงโชว์ดอกไม้พิเศษที่หมุนเปลี่ยนไปทุกอาทิตย์ ตลาดดอกไม้กลางแจ้ง หรือกิจกรรมประจำสวนอย่างการขึ้นชมกังหันลมซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศเนเธอร์แลนด์ และการล่องเรือชมความสวยงามของสวนดอกไม้และสวนทิวลิปโดยรอบ
กังหันลมภายในสวน Keukenhof มีคนต่อแถวกันยาวทั้งวันเลย
กิจกรรมภายในอาคารรอบสวน
สำหรับคนที่กลัวว่าวันที่จะไปเที่ยวนั้นอากาศไม่ดีหรือมีฝนตก ขอบอกว่าไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้เห็นดอกไม้สวยๆ นะคะ เพราะรอบๆ สวนนั้นเต็มไปด้วยอาคารในร่มที่จัดกิจกรรมหลากหลาย มีการแสดงดอกไม้พันธุ์พิเศษโชว์ให้ชมไม่ซ้ำกันเลย (บางอาคารก็เปลี่ยนดอกไม้ที่นำมาแสดงทุกอาทิตย์ด้วยค่ะ) อันนี้เป็นตัวอย่างของดอกไม้งามๆ ที่จัดในร่มเมื่อปี ค.ศ. 2015 ที่ได้ไปชมมา
Willem-Alexander
ตั้งอยู่ตรงกลางสวนใช้จัดแสดงดอกไม้พวกดอกทิวลิปพันธุ์สวยๆ เอามาไว้ที่เดียวกันเลย ใครอยากรู้ว่าพันธุ์ไหนชื่ออะไรก็อ่านป้ายเอาได้ แถมข้างในอาคารก็อุ่นสบาย เดินชมดอกไม้ได้สบายๆ เลยด้วยค่ะ ขอบอกว่าอาคารนี้แจ่มที่สุดแล้ว มีดอกไม้สวยๆ เด่นๆ ให้ชมแบบละลานตา เลือกถ่ายรูปกันแทบไม่ถูกทีเดียว
ลองดูตัวอย่างดอกไม้สีสวยๆ ภายในอาคารกันได้เลย (คลิกที่รูปเพื่อขยายดูรูปใหญ่ได้นะคะ)
Beatrix
ธีมของการจัดกล้วยไม้ปี 2015 นี้คือ Love จัดขึ้นในอาคารที่ชื่อว่า Beatrix ภายในอาคารนั้นประดับไปด้วยดอกกล้วยไม้สายพันธุ์แปลกๆ ที่หายากแม้กระทั่งในประเทศไทยเอง เนื่องจากหัวข้อคือความรัก ทำให้ข้างในอาคารนี่เต็มไปด้วยสีชมพูสุดฟรุ้งฟริ้งเลยค่ะ เห็นแล้วรู้สึกว่าเหมาะกับการถ่ายรูปพรีเวดดิ้งจริงๆ ~
Oranje Nassau
เนื่องจากปี 2015 เป็นปีครบรอบ 125 ปี ของการจากไปของจิตรกรคนดัง "แวน โก๊ะห์" ทางสวน Keukenhof ก็เลยจัดดอกไม้เป็นธีมของรูปวาดของเขาในอาคารนี้ค่ะ ในช่วงที่ไปเค้าจัดแสดงดอก Daffodils กับ Special bulb show ค่ะ เข้าไปนี่เหลืองละลานตาสุดๆ เข้ากับบรรยากาศงานวาดของแวนโก๊ะห์เป๊ะเลย
สวนดอกไม้นี้มีผู้เข้าชมจำนวนมากในแต่ละวัน ถ้ามาตอนเช้าๆ ไม่ทัน แนะนำให้มาตอนบ่ายไปเลยคนจะน้อยลงโดยเฉพาะช่วงหลังบ่ายสาม
ถ้าไม่อยากต่อแถวยาวๆ เพื่อขึ้นรถบัสที่สนามบิน ควรเลือกขึ้นรถบัสที่เมือง Leiden หรือ Haarlem จะสะดวกและสวยกว่าเพราะรถบัสจะวิ่งผ่านแปลงสวนดอกทิวลิปในบริเวณใกล้ๆ
ถ้าอยากไปเที่ยวสวนดอกไม้ในวันที่อากาศดีๆ ควรมาซื้อบัตรเข้าชมที่ศูนย์จำหน่ายแทนที่จะซื้อมาล่วงหน้าออนไลน์ จะได้ตรวจสอบสภาพอากาศแล้วเลือกวันที่ไม่มีฝนตกได้
